มีข่าวลือและภาพเหมารวมมากมายเกี่ยวกับความหรูหราของเมืองนี้ อย่างเช่นชีคที่ร่ำรวย กองทองและเพชร เรือยอร์ชสุดล้ำ และการเลี้ยงเสือชีต้าห์แทนแมว รวมไปถึงการมีบ่อน้ำมันอยู่ทุกๆ ที่และมีฮาเร็มเป็นพันๆ แห่งในรัศมี 1 กิโลเมตร
ว่ากันว่าดูไบเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐี แท้จริงแล้ว มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
1. ดูไบเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีมากมาย
บนโลกเราใบนี้ มีมหาเศรษฐีที่รวยระดับหมื่นล้านอยู่ถึง 5,000 คน แต่มีเพียงแค่ 20 คนเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในดูไบ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เมืองที่มีมหาเศรษฐีหมื่นล้านอาศัยอยู่มากที่สุดคือ ปักกิ่ง ซึ่งมีมากถึงที่สุด รองลงมาก็คือนิวยอร์ก
2. ดูไบเป็นเมืองที่ไม่มีคนจน
เมื่อพิจารณาจากจำนวนแรงงานข้ามชาติ เราสามารถบอกได้ว่าที่นี่มีคนจนมากมายอาศัยอยู่เต็มไปหมด ฐานเงินเดือนของคนงานในดูไบจะอยู่ที่ 200-350 เหรียญ (6,600-11,550 บาท) และแพ็คเกจมือถือที่ถูกที่สุดคือ 30 เหรียญ 990 บาท
ถึงแม้จะมีผู้คนที่มีชีวิตหรูหรามากที่นี่ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ยังมีผู้คนอีกมากมายในดูไบ ที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ ที่คับแคบร่วมกันกับคนอื่นๆ รวมแล้วถึง 5 คน
3. ดูไบเป็นสถานที่ๆ เหมาะกับการเลี้ยงลูก
ผู้อพยพเข้าเมืองจำนวนมากทิ้งลูกๆ ของพวกเขาไว้ที่ประเทศบ้านเกิดตนเอง นั่นเพราะพวกเขาไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูกๆ ที่ดูไบได้ การศึกษาพื้นฐานในดูไบสำหรับโรงเรียนทั่วไป มีค่าใช้จ่ายมากถึง 3.3 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 11 ปี และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือสภาพภูมิอากาศในดูไบ ไม่เหมาะให้เด็กๆ ออกมาเล่นกลางแจ้ง และเด็กส่วนมากจะต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องแอร์
4. ดูไบคือประเทศ
นี่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่หลายคนเข้าใจผิดกันเป็นประจำ เนื่องจากดูไบเป็นแค่เมืองๆ หนึ่งในประเทศ “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ที่มีชื่อย่อว่า UAE เท่านั้น แถมดูไบยังไม่ใช่เมืองหลวงอีกด้วย ดูไบเป็นเพียงแค่ 1 ใน 7 รัฐของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนเมืองหลวงของที่นี่ก็คือ อาบูดาบี
5. ไม่มีเหล้าเบียร์ขายในดูไบ
หลายคนคิดว่าที่นี่เป็นเมืองมุสลิม จึงไม่มีเหล้าเบียร์ขาย แต่ในความเป็นจริง เหล้าเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ได้รับอนุญาตให้ขายกับนักท่องเที่ยวและผู้คนที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมได้ หากคุณต้องการซื้อแอลกอฮอล์ที่นี่ คุณจำเป็นต้องมีบัตรพิเศษหรือวีซ่านักท่องเที่ยว โดยคุณสามารถเพลิดเพลินกันการดื่มแอลกอฮอล์ได้เกือบทุกโรงแรม ไนท์คลับ และบาร์ ซึ่งมีสถานบันเทิงมากถึง 500 แห่งในดูไบ
6. ดูไบเป็นเมืองที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีการก่อสร้างเกิดขึ้นตลอดเวลา ปัญหาแหล่งการขาดแหล่งน้ำ การเติบโตของสถาปัตยกรรมต่างๆ ทำให้พื้นที่ทางธรรมชาติเปลี่ยนไป นอกจากนั้นดูไบยังขาดระบบการจัดการของเสียที่ดี และจำนวนรถที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้เราไม่สามารถเรียกดูไบได้ว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ
7. ตามลมเย็นสบายและสูดอากาศบริสุทธิ์บนตึกสูงระฟ้า
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน อุณหภูมิในดูไบจะสูงถึง 48 องศาเซลเซียส ซึ่งคุณไม่สามารถคาดหวังอะไรได้เลยกับอุณหภูมิในเมืองทะเลทรายแห่งนี้ แถมท้องฟ้าในดูไบเป็นสีเทาเนื่องจากมลพิษทางอากาศ อย่าคิดว่าการอยู่บนตึกสูงระฟ้า จะทำให้คุณได้รับอากาศบริสุทธิ์
8. ดูไบใช้เวลาพัฒนานานมาก กว่าจะมาถึงจุดๆ นี้
รัฐทั้ง 7 เพิ่งมารวมกันเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อปี 1971 เท่านั้น โดยดูไบถือเป็นรัฐที่อายุน้อยแต่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ซึ่งจริงๆ แล้ว ดูไบใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่สิบปี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความศิวิไลซ์มากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเงิน เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว
9. รถตำรวจในดูไบ ใช้แต่รถหรูราคาแพง
คุณอาจเคยเห็นภาพรถตำรวจในดูไบที่ใช้ แลมโบกินี่ หรือ เบนท์ลีย์ ตามท้องถนน แต่ในความเป็นจริงรถตำรวจไม่ได้มีแต่รถซุปเปอร์คาร์ทั้งหมด คุณยังสามารถเห็นรถตำรวจที่ใช้ บีเอ็มดับเบิลยู, ออดี้, หรือแม้แต่โตโยต้าเกลื่อนไปหมด
10. ทุกอย่างในดูไบ ล้วนแต่ไฮเทคไปหมด
คุณสามารถพบเทคโนโลยีได้ทุกแห่งในดูไบ อย่างเช่น ป้ายรถเมล์และตู้ ATM ที่ติดแอร์ หรือแม้แต่ หุ่นยนต์ตำรวจ แต่บางเขตในดูไบกลับขาดแคลนในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ระบบประปา การระบายน้ำ หรือแค่แม้แต่ฝักบัวอาบน้ำยังไม่มีให้ใช้ด้วยซ้ำไป
11. เสือชีตาร์และสิงโต เป็นสัตว์เลี้ยงในดูไบ
การครอบครองสัตว์ป่าเป็นสิ่งผิดกฏหมายในดูไบ ถ้าคุณนำเสือชีตาร์หรือสิงโตออกไปสู่สาธารณะ คุณอาจติดคุกนานถึง 6 เดือนและปรับตั้งแต่ 2,700 เหรียญ (89,100 บาท) ถึง 138,000 บาท (4.55 ล้านบาท) สรุปแล้วสัตว์เลี้ยงของคนดูไบส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นหมาแมวเหมือนเราๆ ท่านๆ นี่แหละ
12. ดูไบเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า
จริงๆ แล้วดูไบเป็นเมืองที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของอาคารบ้านเรือน เพราะที่นี่มีตึกสูงขนาด 163 ชั้น คฤหาสน์ขนาดใหญ่ อพาร์ทเมนท์ ห้องแถว บ้านชั้นเดียว และในขณะที่เมืองกำลังเติบโตด้วยตึกสูงมากมาย ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับต้องการที่จะอยู่บ้านส่วนตัวอย่างสงบๆ โดยไม่ต้องไปอยู่ติดกับใครมากกว่า
13. ชาวอาหรับส่วนมากอาศัยอยู่ในดูไบ
มีผู้คนเพียง 25% เท่านั้นที่เป็นชาวอาหรับ โดยเป็นคนท้องถิ่นเพียง 9% เท่านั้น ดูไบกลายเป็นสถานที่ๆ แขกปากีสถานและบังกลาเทศอพยพเข้ามาจำนวนมาก โดยผู้คนเหล่านี้ทำงานเป็นคนงานก่อสร้างตามไซต์งานและตามโรงงานต่างๆ ซึ่งโดยรวมแล้วมีผู้คนถึง 91% มาจากประเทศอื่นทั้งสิ้น
14. ผู้คนที่ร่ำรวยในดูไบ มาจากการค้าน้ำมัน
ก่อนที่จะเป็นธุรกิจน้ำมัน ผู้คนในดูไบล้วนเริ่มต้นมาจากการทำธุรกิจไข่มุก ซึ่งไข่มุกจากอ่าวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆ ในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเราสามารถเห็นประวัติศาสตร์ไข่มุกแห่งเปอร์เซียได้จากพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มากมาย
ที่มา : lifefeeds